จากกรณี ด.ช. ก (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนมือสอง ในราคา 5,000 บาท จากหญิงสาวคนหนึ่ง ผ่านอินสตราแกรม โอนเงินไปแล้วไม่ได้ของตามสั่งแถมถูกบล็อกติดต่อไม่ได้ เป็นเหตุให้น้องนักเรียนชายเกิดความเครียดจนเส้นเลือดแตกในสมองเสียชีวิต ต่อมาพล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. แถลงผลการจับกุมขบวนการหลอกขายไอโฟน ผ่านอินสตาแกรม (ไอจี) เป็นเหตุให้เหยื่อเด็กชายวัย 14 ปี ที่ถูกหลอกเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า รับจ้างเปิดบัญชีให้ น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัว นส.พิยดา ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
วันที่ 28 ก.ย.64 น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จึงถูกแจ้งข้อหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.638/2564 ในข้อหา”ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ทำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน” โดยเบื้องต้น น.ส.พิยดา ให้การปฏฺิเสธ ทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้เป็นคนกระทำผิด ไม่เคยคุยและไม่เคยหลอกเด็กชายวัย 14 ปี รวมทั้งไม่รู้จักกับผู้ต้องหาเป็นหญิง 2 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และไม่ได้จ้างให้เปิดบัญชีด้วย แต่ยอมรับว่าตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์จริง โดยทรัพย์สินทุกอย่างได้มาจากการขายออนไลน์โดยสุจริตทั้งนั้นและขอให้การในชั้นศาล
พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่าจากการสอบสวนอย่างละเอียดผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ เพียงแต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ตำรวจได้มีการแจ้งไป และบอกจะชี้แจ้งทุกอย่างทางชั้นศาลต่อไป ตอนนี้เราก็นำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ และฝากขังศาล ส่วนจะมีการให้ประกันตัวหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาลท่าน และตัวผู้ต้องหายังมีหมายจับอีกหลายคดี ก็มีการแจ้งอายัดมาที่ศาลจังหวัดฝาง แล้วขั้นตอนต่อไปเราก็จะขยายผลการจับกุมว่าขบวนการนี้มีใครเกี่ยวข้องก็จะจับกุมเพิ่มให้หมด ส่วนความผิดของผู้ต้องหาเรามีพยานหลักฐานมัดแน่น ก่อนขอศาลออกหมายจับ เชื่อว่าจากหลักฐานที่มีจะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนทรัพย์สินของผู้ต้องหาทางตำรวจเราก็เสนอให้ ปปง. เป็นคนดำเนินการหากพบความผิดเข้าข่ายก็จะมีการดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป