วันที่30 มี.ค.นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบยังวัดสวนดอกพระอารามหลวง ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อสำรวจความเสียหายของตัวองค์พระเจดีย์โดยรอบซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีแผ่นทองจังโก้หลุดจากแรงพายุพัดอีกทั้งยังพบความเสียหายหลายจุดที่ต้องเร่งซ่อมแซมโดยเร็ว
นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในส่วนของวันนี้ที่เข้ามาตรวจสอบพบร่องรอยความเสียหายของแผ่นทองจังโก้ที่หุ้มบริเวณปากระฆังด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของพระมาหาฐานโดยในส่วนของความเสียหายนั้นพบว่ากระแสลมที่พัดผ่านองค์ระฆังลักษณะทรงกลมปรากฎว่าแผ่นทองจังโก้มีรอยเผยอออกมารอยต่อของแผ่นทองจังโก้ทั้งในทางดิ่งและทางราบซึ่งทำให้กระแสลมที่พัดมาด้วยความแรงสูงเข้ามาแทรกตามรอยนั้นทำให้เกิดแรงอัดระหว่างผิวขององค์เจดีย์ระหว่างพระธาตุกับทองจังโก้ที่หุ้มอยู่เกิดความโปร่งทำให้แรงดันฉีกขาดได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีความเสียหายอื่นด้วยยังพบว่าบริเวณยอดฉัตรมีการทรุดเอียงไปทางทิศตะวันตกและบริเวณส่วนฉัตรคอน้ำบริเวณบัวมีรอยฉีกขาดจากแรงลมเหลือเพียงไม่กี่แผ่น อีกทั้งผิวทองที่หุ้มเริ่มเสื่อมจากอายุตามกาลเวลาและทางวัดเป็นผู้ดำเนินการเองนั้นในช่วงปี 2549 เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาแล้วและยังพบองค์เจดีย์บริวารมีการแตกร้าวด้วย ส่วนขั้นตอนการซ่อมแซมนั้นจะต้องมีการหารือกับทางวัดก่อนในเรื่องของงบประมาณ ส่วนในเรื่องเทคนิคการซ่อมแซมการบูรณะและการอนุรักษ์นั้นไม่มีความเป็นห่วงซึ่งก็เหมือนการบูรณะฟื้นฟูองค์พระฐานเจดีย์ทั่วไป อย่างไรก็ตามเรื่องงบประมาณในการบูรณะซ่อมแซมในเบื้องต้นต้องมีการเปลี่ยนทองจังโก้ทั้งหมดรวมทั้งฉัตรและตัวพระธาตุเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
สะหรับเหตุการณ์พายุฤดูร้อนซึ่งทำให้องค์พระเจดีย์วัดสวนดอกได้รับความเสียหายเกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 26 มีนาคม 64 ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฤดูร้อนลมพัดกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะตัวเมืองเชียงใหม่ส่งผลให้แผ่นทองจังโก้ที่ห่อหุ้มองค์พระเจดีย์หลุดร่วงลงมาจนทำให้เห็นด้านในองค์พระเจดีย์ซึ่งหลังจากที่พายุสงบทางพระสงฆ์และสามเณรได้ช่วยกันนำแผ่นทองจังโกที่หลุดร่วงลงมาไปเก็บรักษาไว้เพื่อให้ทางสำนักศิลปกรที่7เชียงใหม่เข้าตรวจสอบ