การเมือง-การปกครอง » ภาคเหนือตอนบนแข่งดุหลายสนามเลือกตั้งนายกอบจ. ส.อบจ.เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ สู้กันยิบตา

ภาคเหนือตอนบนแข่งดุหลายสนามเลือกตั้งนายกอบจ. ส.อบจ.เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ สู้กันยิบตา

2 พฤศจิกายน 2020
2575   0

Social Share

วันที่ 2 พ.ย.63ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครการรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้สมัครพร้อมทีมสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ สจ. จำนวนมาก พร้อมกองเชียร์ ทีมีสีสัน ตะโกนโห่ร้อง เชียร์ผู้สมัครของตัวเอง โดย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อายุ 53 ปีหรือสว.ก๊อง คนดังของจังหวัดเชียงใหม่ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมทีมผู้สมัคร ทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง เดินทางเข้ามารอตั้งแต่เวลา 6.30 น. โดยมี นายสุรพล เกียรติไชยากร นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ร่วมขบวนมารอรับสมัคร จับฉลากได้ หมายเลข 1  โดย สอบจ. และกองเชียร์ที่รออยู่ด้านนอกต่างส่งเสียงดีใจ  ส่วนตัวเต็งอีกคนหนึ่งที่มีสมัครในวันนี้คือนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อายุ 64 ปี แชมป์เก่า ก็พร้อมทีมสจ. 42 คนก็มาลงสมัครได้หมายเลข 2 ท่านกลางความดีใจของกองเชียร์ โดยนายบุญเลิศ ลงสมัครในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ไม่สังกัดพรรคใด ส่วนกลุ่มประชารัฐเชียงใหม่ ก็ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่18 คน ส่วนตัวผู้สมัครนายกคือนายบดินทร์ กินาวงศ์ ยังไม่มาสมัครในวันนี้

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร  ผู้สมัครหมายเลข 1 กลุ่มเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตั้งใจไว้ว่าอยากได้หมายเลข1 เพราะคนจะจำได้ง่าย การลงสมัครครั้งนี้มีความพร้อมอย่างมากในการที่จะตั้งใจทำงาน ส่วนนโยบายของกลุ่มเพื่อไทย เนื่องจากเชียงใหม่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว รายได้ร้อยละ 70-80 มาจากการท่องเที่ยว โดยจะจัดสรรงบประมาณไปทางด้านการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะบริหารงบประมาณที่มีอยู่ประมาณ 2,000กว่าล้านบาท ให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนทีมงานที่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการ เป็นทีมที่มีความพร้อม ส่วนตัวมีความตั้งใจมากว่า 6ปีแล้ว ที่จะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด การลงสมัครในครั้งนี้จึงมีความมั่นใจอย่างมาก

ด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 2จากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม อดีตนายกอบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าประเด็นหลักที่จะดำเนินการหากได้รับเลือกจะสานต่อโครงการต่างๆ ที่วางไว้ โดยเฉพาะปัญหาหมอกควันที่เชียงใหม่ต้องเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง ส่วตัวมีความกังวล คาดว่าปีนี้จะหนักกว่าทุกปี เนื่องจากปีนี้มีความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำมีน้อย จึงเป็นนโยบายหลักที่จะเร่งดำเนินการ หากได้รับการเลือกเข้าไปบริหาร ส่วนตัวมีความมั่นใจเกินร้อย จากการที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ สัมผัสกับประชาชนในพื้นที่ และจากการพูดคุยกับ ส.อบจ. ทุกคนมีความมั่นใจอย่างมาก ซึ่งผู้สมัคร ส.อบจ.ร้อยละ 80 เป็นทีมงานเดิมที่ทำงานร่วมกันมา สำหรับการหาเสียง จะเป็นการหาเสียงแบบคนรุ่นใหม่ไม่โจมตีกัน โดยจะชูนโยบายเพื่อให้ท้องถิ่นได้ประโยชน์มากที่สุดเพื่อมาแข่งกันในเรื่องของนโยบาย

จ.เชียงราย ที่อาคารคชสาร สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย สถานที่รับสมัครผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงราย และสมาชิก อบจ.เชียงราย โดยมีกำหนดตั้งแต่วันที่ 2-6พย.63 โดยวันนี้เป็นวันแรกได้มีผู้สมัคร นายก อบจ.ที่ประกาศตัวทั้งสิ้น 3รายประกอบไปด้วยนายมงคลชัย ดวงแสงทอง อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย ลงสมัครในนามอิสระ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตสมาชิก อบจ.เชียงราย หลายสมัยลงในนามอิสระ และ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 3 พรรคเพื่อไทย และเป็นบุตรสาวของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.ที่พึ่งใช้มีดกรีดแขนในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเร็วๆ นี้ ลงสมัครในนามตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย

เมื่อทั้งหมดมาถึงก่อนเวลาเปิดรับสมัคร ทางคณะกรรมการพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆเป็นสักขีพยานจึงได้จัดให้มีการจับสลากเพื่อกำหนดหมายเลข ปรากฎว่านายมงคลชัย จับได้หมายเลข 1นางอทิตาธร จับได้หมายเลข 3และ น.ส.วิสารดี จับได้หมายเลข 3 ท่ามกลางเสียงให้กำลังใจจากทีมงานของแต่ล่ะฝ่าย

จ.แพร่ ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ วันแรกแห่สมัคร ทั้งคนเก่า และคนใหม่ พร้อมทีมงานแห่ให้กำลังใจเพียบ ต่างมั่นใจในชัยชนะในครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดหมายมีผู้มาก่อนเวลาถึง 3 คน ด้วยกัน คือ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ซึ่งจับสลากได้หมายเลข 1 และนายประสงค์ ชุ่มเชย อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2554 ซึ่งได้หมายเลข 2 และหมายเลข 3 ซึ่งสละสิทธิไม่จับสลากเพราะต้องการล็อคหมายเลข 3 ในการหาเสียงคือ นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าจังหวัดแพร่ ซึ่งแต่ละคนก็มีทีมงานที่ลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ในแต่ละเขต โดยได้มีการทยอยเข้ามาสมัครกันอย่างต่อเนื่อง

นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายกอบจ.แพร่ ผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่า มีความมั่นใจเกิน 100 เนื่องจากผู้สมัคร สมาชิกสภา อบจ.แพร่ ชุดเดิมก็ได้ทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์กับทุกพื้นที่ คิดว่าถ้าการเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทีมของเราก็น่าจะมากันได้หมดสำหรับคู่แข่ง ก็ไม่หนักใจเท่าไหร่ มีนิดหน่อย เพราะเราก็ไม่ทราบว่าเขาจะใช้กลยุทธ์อะไร ที่จะมาทำให้ประชาชนไขว้เขวถ้าโดยตรงแล้วพวกเราคิดว่าพวกเราน่าจะได้เข้ามาทั้งหมดครับ

นายประสงค์ ชุ่มเชย ผู้สมัครหมายเลข 2 กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจมากเพราะออกพื้นที่มาโดยตลอดได้รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน และนำสิ่งที่ได้รับมาจากพี่น้องประชาชนมาทำนโยบาย สำหรับคู่แข่งทั้งสองนั้นไม่หนักใจ เพราะตนนั้นมีการเตรียมตัวและเก็บข้อมูลมาโดยตลอด ทั้งของนายกคนปัจจุบันและของทางพรรคก้าวไกล ซึ่งมันมีความแต่งต่างกัน ระหว่างการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่น ชาวบ้านน่าจะเลือกคนที่เข้าใจ เข้าถึงปัญหาของพี่น้องชาวจังหวัดแพร่

นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ ผู้สมัครหมายเลข 3 กล่าวว่า มั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้เนื่องจากนโยบายของเราประกอบไปด้วย 4 ด้าน ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อแน่ว่าหากวางรากฐาน 4 ด้านนี้ จะสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้พี่น้องชาวจังหวัดแพร่ได้ ณ ตอนนี้ลงสมัครเต็มตัวแล้วก็ต้องลงเต็มที่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องขอให้พี่น้องประชาชนเป็นคนช่วยตัดสิน และขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองด้วยครับนายสุภวัฒน์ ศุภศิริ กล่าวในที่สุด