พ.อ. สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 สั่งการให้ ร.ท.อลงกรณ์ ปั๋นหน่อ ผบ.ร้อย.ม.4 บก.ควบคุม ที่ 2 ฉก.ม.3 จัดกำลังออกลาดตระเวณขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณ ท่าต้นขี้เหล็ก บ้านป่าซางงาม ม.6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรวจพบชาย 2 คนเดินฝ่าความมืดไปยังริมแม่น้ำสาย และเวลาต่อมาได้เดินกลับขึ้นฝั่งมาพร้อมกับบุคคลต้องสงสัยอีก 4 คน เจ้าหน้าที่ทหารจึงแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อชายทั้ง 2 คนเห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับตัวได้แค่ 4 คน จึงนำตัวทั้ง 4 คนกลับมาสอบสวนที่ฐานปฏิบัติการ จากการสอบถามบุคคลทั้ง 4 เป็นชาวจีน มี หญิง 1 คนอายุ 25 ปีและชายอีก 3 คน อายุ 24 ปี 1 คน , อายุ 26 ปี 1 คนและอายุ 29 ปี 1 คน จากการสอบสวนเบื้องต้นทุกคนให้การว่าได้ข้ามมาจากประเทศเมียนมา จะข้ามมาที่ประเทศไทย เพื่อรอโทรศัพท์จากเจ้านายอีกทีว่าจะให้ไปที่ไหน หลังถูกจับกุมได้มีชายโทรศัพท์เข้ามาเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธ จึงนำตัวคนจีนทั้งหมดส่งให้ ร.ต.อ. วีรพงษ์ ทะรา รอง สว (สอบสวน) สภ.เกาะช้าง เจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดไข้เบื้องต้น ทั้งหมดอุณหภูมิร่างกาย ปกติไม่มีผู้ใดมีไข้ เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนและลงบันทึกการจับกุมเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ในช่วงเวลา 07.00น.วันที่ 11 ต.ค.63 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาควาามสงบในแม่น้ำโขง (นรข.)เขตเชียงแสน จ.เชียงราย ได้ตรวจพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยคาดว่าเป็นชาวจีนจำนวน 6 คน ที่บริเวณชายแดนใกล้กับ สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยสามารถควบคุมได้ 2 หลบหนีไปได้ 4 คน ไปทางบ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยทางฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กับทางผู้นำชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงคอยสอดส่องภายในหมู่บ้านของตนเอง รวมไปถึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามต่อไป
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด -19 ในพื้นที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย ได้มีการใช้มาตรการคุมเข้มป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19โดยมีการใช้มาตรการตั้งจุดตรวจบนถนนเชื่อมระหว่างเมืองทุกเมืองในเขตรัฐฉานตะวันออก โดยมีการตั้งจุดตรวจบนถนนน 6 เส้นทางเพื่อคัดกรองผู้ที่จะผ่านเส้นทางระหว่างเมือง โดยหากมีความประสงค์ที่จะผ่านทางจะต้องเสียค่าผ่านทางเพื่อตรวจโรคเป็นเงินประมาณ 2,000 จ๊าด ทำให้ถนนตามเมืองต่างๆ ที่ตั้งอยู่รายรอบ จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย มีการตั้งจุดตรวจดังกล่าวอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้พบว่าถนนเส้นติดแม่น้ำโขงชายแดน เมียนมา-สปป.ลาว ก็มีการตั้งจุดตรวจตรงด่านเมืองเลนที่เชื่อมระหว่างท่าขี้เหล็กไปยังเมืองเชียงลาบที่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมียนมา-สปป.ลาว และถนนระหว่างท่าขี้เหล็ก-สามเหลี่ยมทองคำ ติดกับแม่น้ำโขงชายแดนไทย-เมียนมา-สปป.ลาว มีการตั้งจุดตรวจตรงบ้านห้วยดินดำ ขณะที่ภายในตัวเมืองท่าขี้เหล็กเจ้าหน้าที่เมียนมาได้มีการปิดสถานบันเทิงและร้านต่างๆ ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป และยังคงมาตรการห้ามออกจากเคหะสถาน ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนถึงเวลา 04.00 น. โดยนายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าราชการ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้นำเจ้าหน้าที่ควบคุมปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตัวเอง
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในเมียนมา ณ วันที่ 11 ต.ค.63 พบว่า มีผู้ติดเชื้อสะสม 26,064 คน เป็นผู้ติดเชื้อใหม่พบเมื่อ 10 ต.ค. 63 จำนวน 2,158 คน ผู้เข้าข่ายเฝ้าระวัง อยู่ในสถานกักตัว 15,581 คน รักษาหาย 7,050 คน เสียชีวิต 598 คน จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามรัฐต่างๆ ที่ กรุงย่างกุ้ง 18,961 คน รัฐยะไข่ 1,900 คน ภาคพะโค 698 คน ภาคมัณฑะเลย์ 628 คน ภาคอิระวดี 494 คน รัฐมอญ ติดกาญจนบุรี 389 คน กรุงเนปิดอ 202 คน ภาคสะกาย 151 คน ภาคมะกวย 121 คน รัฐคะฉิ่น 72 คน ภาคตะนาวศรี ติดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบฯ ชุมพร ระนอง 66 คน รัฐกะเหรี่ยง ติดแม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี 64 คน รัฐฉาน ติดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน 46 คน รัฐชิน 41 คน รัฐคะยา ติดแม่ฮ่องสอน ไม่มีผู้ติดเชื้อจากสถานการณ์ที่โควิด19ระบาดอย่างหนักในเมียนมาขณะนี้ ทางการไทยจึงยกระดับความเข้มงวดตามแนวชายแดนมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อโควิด 19 ข้ามแดนเข้ามาระบาดในประเทศ