วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ร่วมมือ มช.และ ม.แม่โจ้ เปิดโครงการ “แสงอาทิตย์เพื่อแสงธรรม”สร้างวัดต้นแบบใช้โซล่าเซลล์ลดค่าไฟฟ้าในวัดที่จ่ายสูงเดือนละ 80,000 บาท
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 ก.ย. 63 นายจิระชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พระราชโพธิวรคุณ ดร.เมธาจารย์ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พฤกษ์ อักกะรังสี สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ผศ.เสริมสุข บัวเจริญ วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ร่วมกันแถลงข่าว “แสงอาทิตย์เพื่อแสงธรรม” สร้างระบบพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายให้กับวัด ที่จ่ายสูงเดือนละ 80,000 บาท เป็นโมเดลให้กับวัดในพื้นที่เชียงใหม่ และทั่วประเทศ
พระราชโพธิวรคุณ ดร.เมธาจารย์ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด กล่าวว่า เนื่องด้วยวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง มีพื้นที่มากกว่า 200 ไร่ และมีอาคารที่ใช้ประโยชน์ในการดำเนินกิจกรรม และโครงการต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก มีค่าใช้จ่ายไฟฟ้ามากกว่า 80,000 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมาทางวัดก็เป็นศูนย์รวมที่จัดกิจกรรมในด้านพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการประชุมของคณะสงฆ์ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ การจัดประชุมของหน่วยงานต่างๆ ที่มาใช้ห้องประชุมที่อยู่ภายในวัด จึงได้เกิดโครงการ “แสงอาทิตย์เพื่อแสงธรรม” และได้รับความอนุเคราะห์จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มช. และวิทยาลัยพลังงานทดแทน ม.แม่โจ้ ที่เข้ามาสนับสนุน และถือเป็นวัดแห่งแรกในภาคเหนือ เป็นโมเดลต้นแบบประหยัดพลังงาน เป็นแหล่งเรียนรู้ พลังงานทางเลือกแก่ประชาชนทั่วไป และวัดทั่วประเทศได้นำไปเป็นแบบอย่างในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาทให้ครอบคลุมทั้งวัด ซึ่งก็มีหน่วยงานภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือบ้าง แต่หากจะทำให้เสร็จทั้งหมดก็ต้องขอแรงคณะศรัทธาเข้ามาช่วยเหลือ ร่วมกันบริจาคคนละ 50 บาท ที่บัญชี “วพล.โครงการพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อแสงธรรม” ธนาคารออมสิน สาขาดอยสะเก็ด เลขที่บัญชี 020-30107-3993 หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 052-010595
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พฤกษ์ อักกะรังสี สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีการใช้พลังงานทางเลือกหนึ่งในนั้นคือ พลังานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เรียกว่า “ระบบโซล่าเซลล์” เป็นพลังงานทดแทนช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าและเป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการสูง แต่มีระยะเวลาถึงจุดคุ้มทุนภายใน 4 -5 ปี อายุการใช้งานโซล่าเซลล์อยู่ที่ 20 ปีขึ้นไป สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าได้มากกว่า 300,000 บาทต่อปี ในเฟสที่ 1 จำนวน 53 กิโลโวลต์
ผศ.เสริมสุข บัวเจริญ วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ทางวิทยาลัยฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือว่าเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในทางอ้อม เพราะช่วยให้วัดได้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า และนำไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ และเตรียมต่อยอดในการพัฒนาให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดต้นแบบด้านพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน เพื่อส่งผลไปถึงวัดอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงทั่วประเทศ และในภาคประชาชน เอกชน ที่สนใจก็สามารถติดต่อสอบถาม หรือมาศึกษาเรียนรู้การใช้พลังงานสะอาดที่วัดแห่งนี้ได้