ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามราคาลำไยในฤดูกาลปี 63 พบว่า ราคาลำไยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ราคาตกมากกว่าปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้ปลูกโอดครวญเก็บขายยังไม่คุ้มทุน พ่อค่านายหน้าหายจ้อยไม่มาติดต่อซื้อยกสวนเหมือนทุกปี ส่วนพ่อค้าแม่ค้าก็ลำบากซื้อมาแล้วขายไม่ออก ลำไยในปีนี้ออกมาเยอะ ส่งผลให้ราคาต่ำและเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีกำลังที่จะซื้อ
นางวิไล นิกรพันธุ์ อายุ 64 ปี แม่ค้าลำไยในตลาดวโรรส เปิดเผยว่า ตนขายลำไยที่ตลาดแห่งนี้มาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งปีที่ผ่านมา ราคาลำไยยังสูง ขายกิโลละ 60 – 70 บาท แต่ปีนี้เมื่อเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อ และต้องยอมรับว่าลำไยปีนี้ออกมากกว่าทุกปี ทำให้ราคาตกลง และที่เห็นจำหน่ายกันในราคามัดปุกละ 20 บาท เพราะเกษตรกรจำใจต้องนำมาขายเอง หากส่งโรงงานอบจะเหลือแค่ 17 บาท เกษตรกรก็ไม่คุ้มทุน ซึ่งปีนี้ของตนยังคงขายได้เพียงแค่กิโลละ 35 บาท เรียกว่าครึ่งหนึ่งของปีที่ผ่านมาด้วย และไม่กล้าซื้อมาจำหน่ายมาก เพราะการที่คนมีกำลังซื้อน้อย แล้วราคาลำไยตก มีวางขายกันหลายแห่ง ทำให้บางวันลำไยที่ซื้อมาจำหน่ายก็ไม่หมด ปีนี้จึงลดจำนวนการซื้อมาจำหน่าย เพียงแต่คัดเลือกขนาดลูกที่สวยเอามาจำหน่ายเพื่อให้มีรายได้เพียงพอเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น
นายสมบัติ ดวงฤทธิ์ เกษตรกรที่ปลูกลำไย เปิดเผยว่า ราคาลำไยในแปลงใหญ่ ยังมีผลผลิตที่เยอะสามารถป้อนเข้าโรงอบลำไยได้เยอะ แต่หากเป็นแปลงเล็กจะลำบากและไม่ค่อยคุ้มกับต้นทุน ซึ่งราคารับซื้อลำไยแบบรูดร่วง ราคาเพียงแค่ 17 บาท เกรด AA และเกรด A ราคา 9 บาท เกรด B ราคา 4 บาท และเกรด C ราคา 1 บาท จึงอยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยา และดูแลเกษตรกรด้วย โดยเฉพาะเกษตรกรแปลงเล็ก อย่างน้อยก็อยากให้ราคาเกรด AA ขายได้ 20 – 22 บาท เกษตรกรถึงจะอยู่ได้และคุ้มทุนกับการปลูก ปัจจุบันเกษตรกรรายย่อย ก็ต้องเอาตัวรอด ด้วยการหาตลาดขายกันเอง มีพ่อค้าที่จะมารับซื้อถึงสวนแค่ไม่กี่คน และข่าวลือที่ว่าจะมีพ่อค้าจากประเทศจีนมารับซื้อในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ก็ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น
เพราะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทางและการส่งออกลำบาก ขณะนี้ที่ชาวสวนลำไยรายย่อยทำได้คือ วางจำหน่ายตามหน้าสวนหรือริมถนนในราคาถูก มัดปุกละ 20 บาท และปีนี้อากาศร้อนจัด ฝนทิ้งช่วง ทำให้ผลผลิตลำไยออกมาไม่ค่อยสวย ประกอบกับบางวันหลังจากเก็บเกี่ยวมาแล้ว และยังขายไม่หมดก็มีฝนตกลงมาก็เกรงว่าลำไยจะเสียจึงได้ขายมัดปุกละ 10 บาทก็มี จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบทั้งเกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัดและเรียกร้องผ่านไปยังรัฐบาลให้เร่งมาตรการให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะหากช้ากว่านี้สถานการณ์ราคาลำไยคงเลวร้างลงไปอีกแน่นอน เพราะประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากนี้ คาดการณ์ว่า ลำไยทุกสวนจะออกมามากขึ้น เกรงว่าราคาจะตกลงกว่านี้อีก