เศรษฐกิจ » เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เร่งหามาตรการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ หวั่นช่วงเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.ผลผลิตจะตกต่ำ

เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เร่งหามาตรการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ หวั่นช่วงเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.ผลผลิตจะตกต่ำ

19 กุมภาพันธ์ 2018
2488   0

Social Share

เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เร่งหามาตรการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ หวั่นช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย.ผลผลิตจะตกต่ำ เพราะมีผลผลิตจะออกสู่ตลาด 27,180 ตัน

นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์หอมหัวใหญ่ ปีการผลิต 2561 ที่กำลังออกสู่ตลาดในขณะนี้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 6,795 ไร่ ผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดประมรณ 27,180 ตัน จากการตรวจสอบพื้นที่แปลงใหญ่ใน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ มีพื้นปลูก จำนวน 3,500 ไร่ รองลงมาคือ อำเภอฝาง และอำเภอสันป่าตอง

จากการเดินทางลงไปตรวจสอบและพบกับ นางกัลยากร สมโน เกษตรอำเภอแม่วาง ซึ่งได้นำเข้าตรวจสอบผลผลิตขณะนี้ในซึ่งเป็นเกษตรกรแปลงใหญ่ และมีการเก็บเกี่ยวไปแล้ว ก็พบว่า ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงแรกแล้ว ร้อยละ 37 ของพื้นที่ คิดเป็นผลผลิต จำนวน 10,056 ตัน โดยคาดว่าผลผลิตหอมหัวใหญ่ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ จะหมดฤดูกาลดภายในเดือน เม.ย.

เกษตรกรในอำเภอแม่วางนั้นได้เริ่มปลูกก่อน จึงทำให้ราคายังสูง แต่ในอีก 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือที่กำลังอยู่ช่วงการเก็บเกี่ยว และผลผลิตในอำเภอฝาง และอำเภอสันป่าตอง ออกมาอีกก็อาจจะทำให้ราคาตกลงไปได้ ดังนั้น ทางเกษตรจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ไว้แล้ว ด้วยการประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการกระจายผลผลิตได้ ทั้งพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ และ ธกส. เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร พร้อมกันนี้ก็จะนำแนวทางต่างๆ เข้าประชุมในวาระของจังหวัดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในอนาคต แม้ว่าราคาผลผลิตในขณะนี้ยังสูงอยู่ แต่ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน เพื่อให้เกษตกรเกิดความสบายใจและสามารถอยู่ได้หากผลผลิตราคาตกต่ำลง

ด้าน นางกัลยกร สมโนเกษตรอำเภอแม่วาง เปิดเผยว่า เกษตรกรมาแจ้งขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานเกษตรแม่วางไว้จำนวน 3,500 ไร่ ซึ่งในช่วงนี้ผลผลิตที่อำเภอแม่วางเก็บเกี่ยวไปแล้วจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 3,500- 4,000 ต่อไร่ ราคในปัจจุบัน เบอร์ 0-2 ราคา 12 บาทต่อกิโลกรัม เบอร์ 3 ราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม เบอร์4 ราคา 8 บาทต่อกิโลกรัม โดยแรงงานที่มาเก็บเกี่ยวจะเป็นแรงงานที่มาจากต่างอำเภอ โดยเป็นแรงงานที่มีความชำนาญในการคัดคุณภาพ ณ แปลงปลูก เบื้องต้นอัตราค่าจ้างจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาทต่อวัน คาดการณ์ว่าเดือนเมษายนจะเก็บเกี่ยวหมดในฤดูกาลนี้

เครดิตภาพ จากเกษตรจังหวัดเชียงใหม่