ขบวนนักปั่นจิตอาสา “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ” เข้าเส้นชัยที่เชียงใหม่แล้ว เศรษฐีนีใจบุญมอบที่ดินและบ้านกว่า 200 ล้านให้ศูนย์คนพิการได้ใช้ประโยชน์ด้วย
ช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.พ. 61) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นพยานในการขบวนนักปั่นจักรยานของคนพิการทางสายตากับนักปั่นจิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No one left behind” ที่บริเวณหน้าหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการจัดรูปขบวนเพื่อปล่อยตัวขบวนนักปั่น จำนวนทั้งสิ้น 140 คน และมีหน่วยงานด้านการจราจรและการพยาบาล ดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนและอำนวยความสะดวกให้กับทีมนักปั่นจักรยานตลอดเส้นทาง
หลังจากปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ทก็ได้มุ่งหน้าไปยังบ้านของ นางดวงกมล พานิชกุล ที่บ้านชลิสา เศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจรายหนึ่ง เพื่อรับมอบสิทธิที่ดินเก็บกิน เป็นพื้นที่ทั้งหมด 33 ไร่ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ที่ได้มอบที่ดินแห่งนี้ให้กับมูลนิธิฯ ไว้ใช้ประโยชน์ในด้านศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนด้วย หลังจากที่ทำพิธีรับมอบเสร็จก็ได้ร่วมกันหว่านเมล็ดปอเทืองลงในแปลงนาภายในพื้นที่ด้วย ก่อนที่ทางคณะจะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
สำหรับ โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกันฯ นั้น ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอด 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต ปั่นจักรยานสามัคคี “คนตาดีช่วยคนตาบอด” 9 วัน 9 จังหวัด เป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 867 กิโลเมตร เพื่อระดมทุน สนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว เพื่อให้เป็นแหล่งสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการอย่างยั่งยืน ถือเป็นการสานต่องานที่ “พ่อ” ทำด้วยการเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง “พลัง” ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม
ในขณะนี้ยอดเงินที่ได้จำนวน 26 ล้านกว่าบาท ซึ่งยอดที่ตั้งเป้าไว้ทั้งหมด 67 ล้านบาท ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการหากสร้างสำเร็จ จะช่วยให้คนพิการที่อยู่ด้านหลังอยู่ในสังคมได้ดีขึ้น ให้คนพิการทำงานเพื่อสังคมและอยู่กับสังคมได้เหมือนกับคนทั่วไป ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมและความเคลื่อนไหวของ โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ได้ทาง Facebook : มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ (Facebook.com/Universalfoundation) หรือ www.wiriya.org และร่วมส่งแรงใจสนับสนุนนักปั่นผู้พิการทางสายตาด้วยการติดแฮชแท็คที่กำหนด #ปั่นไปไม่ทิ้งกัน #NoOneLeftBehind ซึ่งผู้ที่มีจิตศรัทธาก็สามารถร่วมบริจาคได้ตลอด