น.ท.รณกร เฉลิมแสนยากร ผอ.การท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 22.05 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินเชียงใหม่ ว่า เที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 เส้นทาง เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ขณะเครื่องบินอยู่ระหว่างเตรียมทำการวิ่งขึ้น มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน ทำให้เบาะสไลด์กางส่งผลให้อากาศยาน ไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางทางวิ่ง (Runway) ส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ไม่สามารถทำการขึ้น – ลง ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ชั่วขณะ
หลังรับแจ้งเหตุท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ประสานช่างอากาศยานของสายการบินไทย เข้าดำเนินการตัดเบาะสไลด์ออก ก่อนนำอากาศยานกลับเข้าหลุมจอดหมายเลข 15 และสามารถเปิดใช้งานทางวิ่งได้ตามปกติในเวลา 22.50 น.ส่วนผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าว ได้นำกลับเข้าพักคอยภายในอาคารผู้โดยสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่และเจ้าหน้าที่ของสายการบินดูแล ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ช่างได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว สามารถออกเดินทางได้ในเวลา 00.43 น ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบทั้งหมด 13 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินวนรอขาเข้าจำนวน 8 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออกจำนวน 3 เที่ยวบิน และเที่ยวบิน Divert จำนวน 2 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 2,296 คน ซึ่งทางการท่าได้มีการประชุมคณะกรรมการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยมีคณะกรรมการฯ ซึ่งเป็นผู้แทนจากสายการบิน ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีการหยิบยกกรณีที่เกิดขึ้นมาหารือ เพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติและหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ทางด้านพ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าสำหรับการดำเนินการของนักท่องเที่ยวที่ก่อเหตุดังกล่าว เป็นชายชาวต่างชาติ ได้มีการนำตัวมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นสองข้อหา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 232 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ยานพาหนะดังต่อไปนี้ อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท และข้อหาตามพรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเดินอากาศ มาตรา 7 ด้วย