13 ก.พ.66 ที่ตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต. พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรพงค์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.พิทักษ์ นาสมวาส รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.สงกรานต์ สันติวงค์ ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย นายอนุเทพ ธาระณะ ผอ.ส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน ปปส.ภ.5,พ.อ.ยอดชาย พวงวรินทร์ รอง เสธ ศอ.ปส.ชน. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี จับกุมผู้กระทำความผิดตามหมายจับ 1 คน ตรวจยึด ยาบ้า 4.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 133 กิโลกรัม ขยายผลตรวจยึดรถยนต์ของกลางรวม 4 คัน ซึ่งเป็นผลการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย
โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบเส้นทางตามแนวชายแดน และตั้งจุดสกัดยาเสพติดบริเวณที่เกิดเหตุ ได้พบรถยนต์กระบะ ขับมาจากบ้านห้วยปู หมู่11 ต.แม่ฟ้าหลงวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้ามายังบริเวณจุดสกัด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถคันดังกล่าวได้ขับถอยหลังหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถยนต์ ไล่ติดตามไปพบรถคันดังได้ตกลงอยู่ข้างทาง ลักษณะประตู ด้านคนขับเปิดและดับเครื่องยนต์ไว้ แต่กุญแจรถเสียบคาอยู่ ไม่พบผู้ใด จึงได้เข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบกระสอบฟางอยู่ในที่นั่งตอนในกับกระบะท้ายเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า เป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบฟางจำนวน 23กระสอบ ประมาณ 4.6 ล้านเม็ด และพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงชาสีเขียว อีกจำนวน 133 ถุง ประมาณ 133กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ชุดตำรวจจึงได้ตรวจยึดและนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน ต่อมาสามารถขยายผลออกหมายจับและทำการจับกุมตัว นายสิทธิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31ปี ซึ่งเป็นชาว อ.แม่จัน จ.เชียงราย นำตัวมาดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันอาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน”ในชั้นจับกุมนายสิทธิชัย ผู้ต้องหาได้ให้การรับว่าเป็นผู้ซื้อรถคันกล่าวจริง แต่ปฏิเสธว่าขณะเกิดเหตุไม่รู้ว่าผู้ใดขับรถขนยาเสพติดของกลาง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลสามารถตรวจยึดทรัพย์สินจาก นายสิทธิชัย ผู้ต้องหาได้รถยนต์เพิ่มอีกจำนวน 3 คัน ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องที่เหลือต่อไป
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้ ยาบ้าจะมีการลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศเพื่อกระจายให้กับกลุ่มผู้เสพภายในประเทศ ส่วนยาไอซ์ประมาณ 70-80 % จะถูกส่งออกยังประเทศที่สามปลายทางแถบทวีปอเมริกาใต้,ทวีปออสเตรเลีย ตำรวจภูธรภาค 5 ยังคงให้ความสำคัญในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงการนำเข้าตามแนวชายแดน และพื้นที่ใกล้เคียงกับแนวชายแดน ทั้งนี้ ยังดำเนินการตามนโยบายค้นหาผู้เสพ ผู้ใช้ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด สรุปผลการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.65- 10 ก.พ.66 จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 2,589 คดี เป็นรายสำคัญ 52 คดี ผู้กระทำความผิด 1,141 คน ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 42,289,549 เม็ด ไอซ์ 1,174 กก. เคตามีน 401 กก.