ข่าวเด่น » ปิดตำนานสิ้นแล้วกระเทยประตูท่าแพเชียงใหม่ หลายฝ่ายดีใจภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น

ปิดตำนานสิ้นแล้วกระเทยประตูท่าแพเชียงใหม่ หลายฝ่ายดีใจภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น

8 มกราคม 2018
9199   0

Social Share

ปิดตำนานสิ้นแล้วกระเทยประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เศรษฐกิจซบเซา ตำรวจไล่จับ หันไปทำผ่านออนไลน์แทนการยืนเรียกแขกจนภาพออกมาฉาวโฉ่ หลายฝ่ายดีใจภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น

ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแลนด์มาร์กอีกจุดหนึ่งที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายภาพบริเวณประตู และป้ายประตูท่าแพ ซึ่งมีความสวยงาม รวมถึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่ตามมาคือ กลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับหลายอาชีพ โดยเฉพาะทางด้านธุรกิจทัวร์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเดินบริเวณลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพกันมากขึ้น แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังก็คือ “กลุ่มสาวประเภทสอง” หรือเรียกว่า กระเทยท่าแพ เป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้แฝงตัวออกมา โดยจะแต่งกายเป็นเหมือนผู้หญิง ออกมายืนในช่วงยามค่ำคืน เพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวไปในเชิงด้านค้าประเวณีทำให้เกิดภาพลบในด้านการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกมากวาดล้าง ไล่จับกุม จนกระทั่งกลุ่มเหล่านี้ได้เคลื่อนออกจากประตูท่าแพ ไปอยู่ตามมุมตึก ตามปากซอยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับลานประตูท่าแพแทน

แต่ปัจจุบันหากนักท่องเที่ยวไปก็จะพบว่ากลุ่มสาวประเภทสองเหล่านี้ที่ ได้เริ่มสูญหายไปมากแล้ว ด้วยสาเหตุหลายอย่าง และจากการสอบถามข้อมูลก็ทำให้รู้ว่า หลายคนไม่อยากออกมายืนแล้ว เพราะปัจจุบันทางด้านเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ไม่มีลูกค้ามา บางวันก็ได้บางวันก็ไม่ได้ และยังเสี่ยงหากถูกจับด้วย เมื่อถูกจับก็ต้องเสียค่าปรับ ก็ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน

หลายคนก็เคยถูกจับกุมทำประวัติมาก่อน แต่ก็ต้องกลับมาทำอีกเพราะไม่รู้จะไปทำงานอะไร แต่ก็มีเหมือนกันที่บางคนเลิกทำแล้วไปลองทำอาชีพอื่น บางคนก็ไปจับกลุ่มกันขึ้นมา แล้วทำเฉพาะกลุ่มแบบออนไลน์ มีลูกค้าประจำ ลูกค้าขาจรติดต่อผ่านเข้ามา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องถูกจับ แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งออกมายืนอยู่บริเวณริมถนน แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน

 

นายวัลลภ นามวงศ์พรหม คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในมุมมองส่วนตัวคิดว่า เรื่องที่กลุ่มกระเทยท่าแพหายไปเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะประตูท่าแพนั้นขึ้นกับทางกรมศิลปกากร ถือเป็นมรดกของจังหวัดเชียงใหม่ หากใครไปทำสิ่งไม่ดีไม่งาม ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ส่วนทางด้านเศรษฐกิจนั้นก็อาจจะเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง แต่ก็น้อย ซึ่งคิดว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่าย รวมถึงประชาชน มีความร่วมมือที่เข้มแข็ง ทำให้ลานท่าแพ เป็นลานกิจกรรม เป็นลานท่องเที่ยว

หลายภาคส่วนจับตาดูตลอดเวลา ทำให้กลุ่มเหล่านี้หายไปจากตรงนี้มากกว่า และหลายคนก็อาจจะมีช่องทางที่ไปติดต่อกันทางอื่นด้วย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้หายไป หากกลับมายืนบริเวณลานท่าแพ หรือใกล้กับลานท่าแพ ก็อาจถูกมองเหมือนเป็นสิ่งไม่ดี และเป็นการรบกวนนักท่องเที่ยว หากคนเหล่านี้ยังมีอยู่ นักท่องเที่ยวถูกรบกวน ก็จะส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวไม่มีใครอยากมาเดิน แต่ปัจจุบันคนเหล่านี้หายไป จะเห็นว่านักท่องเที่ยวออกมาเดินบนลานท่าแพทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืนมากขึ้น เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีมากที่มีชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เข้มแข็ง ทำให้คนเหล่านี้ไม่ออกมายืนและสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับเมืองเชียงใหม่อีก