พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เดินทางมาโดยเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาที่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ในคดีการตรวจยึดกระสุนปืน 5.56 มิลเมตร และระเบิดบุคคล K75 จำนวนมาก จนสามารถขยายผลจับกุม ผู้ต้องหาในดคีนี้ได้ทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วยนายมโนกรณ์ อายุ 29 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายทรงศักดิ์ อายุ 31 ปี ชาว ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เอาไว้ก่อนหน้านี้ และได้ขยายผลประสานกับตำรวจ บก.สส.ภ.8 และ บก.สส.ภ.7 จับกุมตัวนายชิติพัทธ์ อายุ 36 ปี ชาว ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม นายภัคเมศร์ อายุ 28 ปี ชาว ต.กระตืบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นายธีระพล อายุ 28 ปี ชาว ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และ น.ส.พิชญาภัค อายุ 32 ปี ชาว ต.หนองปลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมผู้ต้องหา 6 คน ของกลางกระสุนปืนขนาด 5.56 ม.ม.จำนวน 6,000 นัด ลูกระเบิดขว้างสังหารแบบ K 75 จำนวน 115 ลูก
โดยการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนที่ 28 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งว่ามีกล่องพัสดุต้องสงสัย ส่งที่ร้านรับส่งพัสดุเอกชนใน อ.แม่สาย จึงได้ตรวจสอบกล่องพัสดุ พบของกลางทั้งหมดบรรจุอยู่ภายใน โดยเบื้องต้นสืบทราบว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ และเชื่อมโยงกับขบวนการค้าอาวุธสงครามในภาคใต้ จึงได้ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมตัวนายมโนกรณ์ ขณะเดินทางไปติดต่อรับ ส่วนนายทรงศักดิ์ กำลังรอจะขับรถตู้เพื่อจะรับจ้างขนไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน
จึงขยายผลการจับกุมไปยัง บก.สส.ภ.8 และ บก.สส.ภ.7 ยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาอีก 4 คน และตั้งข้อหา ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตตีให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยนายชิติพัทธ์ ที่มีชื่อเป็นผู้จัดส่งพัสดุดังกล่าวไปถึงผู้รับที่ อ.แม่สาย สามารถจับกุมได้ที่ จ.นครปฐม และนายภัคเมศร์ จับกุมได้ที่โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ส่วนนายธีระพลได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช และ น.ส.พิชญาภัค ตามจับได้ที่ จ.นครราชสีมา
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ตรวจสอบก็ได้ขยายผลจากการส่งกล่องพัสดุ 3 จุดคือ อ.บางละมุง อ.กำแพงแสน และ อ.สิชล จนพบหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าใครเป็นคนส่งพัสดุดังกล่าว จึงได้ติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด โดทุกคนต่างให้การรับสารภาพว่าได้ส่งอาวุธดังกล่าวจริง แต่เชื่อว่าน่าจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก โดยต้นทางกำลังขยายผลเพราะยังมีบางส่วนที่ได้ไม่ครบส่วนปลายทางอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยอยู่ระหว่างประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนตัวอาวุธของกลางอยู่ระหว่างตรวจสอบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากรณีลูกระเบิดน่าจะเป็นของทางราชการ แต่จากการตรวจสอบเลขล็อตนับเบอร์ก็ยังไม่พบเลขล็อตที่ตรงกันกับลูกระเบิด เพราะของทางราชการจะเป็นอินทรีย์ 82 แต่ล็อตที่พบเป็นอินทรีย์ 84 ซึ่งการจัดเก็บมีมาตั้งแต่ปี 2531 ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ สำหรับของกลางถือเป็นของเก่า แต่ที่มีสภาพยังคงเหมือนหม่อยู่นั้นเพราะมีการจัดเก็บที่ดี ซึ่งจะต้องขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการนี้ต่อไป