ข่าวเด่น » ตร.คุมตัวหลานชายโหดฆ่าอาสาวใหญ่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ

ตร.คุมตัวหลานชายโหดฆ่าอาสาวใหญ่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ

27 ธันวาคม 2020
632   0

Social Share

จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่กา อ.ดอยเต่า ได้พบศพนางอาคร สมคำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 2 บ้านสันบ่อเย็น ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ถูกฆาตรกรรมและจับยัดใส่ถัง มาวางในเมรุ ภายในบริเวณ สุสานบ้านสันบ่อเย็น หมู่ 2 บ้านสันบ่อเย็น ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่จากการตรวจสอบพบว่าหญิงคนดังกล่าวได้หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายธานิน ใหม่ปา อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 ต.โปงทุ่ม อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ หลานชายของนางอาคร ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้าเกินขนาดทำให้เห็นอา สาวของตนเองเป็นคนอื่นจึงลงมือฆ่า ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 ธ.ค.63 พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.แม่กา อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ได้ทำการควบคุมตัวนายธนิน ใหม่ปา อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาเมายาฆ่ารัดคออาสาวใหญ่วัย 59 ปียัดถังซุกเมรุ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านสันบ่อเย็นหมู่ 2 ตำบลโปงทุ่ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดแรกคือบริเวณที่ห้องครัวภายในบ้านของนางอาคร นายธนินผู้ต้องหาฆ่ารัดคอและชกนางอาคร จนเสียชีวิตคาที ก่อน ลากร่างนางอาคร เข้าที่ห้องเก็บของ เพื่อซ่อนก่อนจะเปลี่ยนใจอุ้มร่างนางอาคร มาที่เก็บลงถัง 200 ลิตร ก่อนคนร้ายจะ ไปรองน้ำใส่ถัง เพื่อหวังให้นางอาคร จมน้ำตายเพื่อความแน่ใจว่านางอาคาร ตายจริงพอนางอาคร ตาย ก็เอาผ้าตาข่ายสีฟ้าสำหรับตากกระเทียมมาปิดไว้ที่ปากถัง กันคนมาเห็นเมื่อใกล้พลบค่ำ กลิ้งถังออกจากบ้าน เอาขึ้นรถเข็น ละเข็นไปสุสาน พอไปถึงสุสาน เอาถังลงจากรถเข็น กลิ้งถังที่มีศพขึ้นเมรุ พอขึ้นมาด้านบน เปิดประตูเมรุ ครึ่งบนบานเดียว ก่อนดันถังใส่เมรุและก็ปิดประตูเมรุ เตรียมจะเผาในเวลาต่อมา

โดยการทำแผนครั้งนี้ทางตำรวจได้นัดกำลังตั้งแต่ 7 นาฬิกาโดยได้ขอกำลังตำรวจ สภ.ดอยเต่าและชุดรักษาความปลอดภัยของตำบลโปงทุ่งกว่า 50 นายมารักษาความปลอดภัย เพราะเกรงว่าชาวบ้านและญาติพี่น้องจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา โดยมีการตะโกนด่าทอของชาวบ้านทำกับอาอย่างนี้ได้อย่างไรถือเป็นคนเณรคุณมากคนแบบนี้ไม่ต้องลงโทษสถานหนักประหารชีวิตอย่างเดียว สาปแช่งผู้ต้องหาให้ตายตกไปตามกัน ซึ่งตำรวจใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 30 นาทีก่อนจะรีบนำตัวผู้ต้องหากลับ สภ.แม่กา ทันที เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่น และซ่อนเร้น หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย”ขณะที่ในช่วงเย็นวันนี้ทางครอบครัวของนางอาคร สมคำผู้ตายจะทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณตามความเชื่อของชาวล้านนาให้ออกจากเมรุก่อนที่วันพรุ่งนี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณีต่อไป