ข่าวเด่น » เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบผู้ว่าราชการ จ. เชียงใหม่ ยกประเด็น ต่อต้านยาเสพติด ลงทุน และปัญหาหมอกควันจากการเผาป่า หารือวางแนวทางแก้ไขร่วมกันต่อไป

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบผู้ว่าราชการ จ. เชียงใหม่ ยกประเด็น ต่อต้านยาเสพติด ลงทุน และปัญหาหมอกควันจากการเผาป่า หารือวางแนวทางแก้ไขร่วมกันต่อไป

30 กรกฎาคม 2020
737   0

Social Share

30 ก.ค. 63 ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยและประสานความร่วมมือในการป้องกันปัญหายาเสพติดในภาคเหนือ การพัฒนาเมืองเชียงใหม่ การป้องกันแก้ไขไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ รวมถึงการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ สังคม และการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย

หลังจากนั้น นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนเชียงใหม่ และภาคเหนือของประเทศไทย หลังจากที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ได้ 3 – 4 วันก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และวันนี้ได้มีการประชุมพบปะกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีประโยชน์มาก ได้พูดถึงเรื่องสำคัญหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรก เป็นเรื่องความร่วมมือในด้านการต่อต้านยาเสพติดในภาคเหนือ และเรื่องที่ท้าทายคือการเผาป่า รวมถึงเรื่องพื้นที่เพาะปลูกว่าจะมีวิธีการอย่างไรในการลดปัญหาตรงนี้ได้ สิ่งที่ตนให้ความสำคัญคือเรื่องการส่งเสริมยุทธศาสตร์ร่วมกับประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องการต่อต้านยาเสพติด และเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ก็ได้มีโอกาสขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจแนวชายแดนที่สามเหลี่ยมทองคำ ตนได้เห็นถึงความยากลำบากในการป้องกันปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความยาวมาก ต้องอาศัยการลาดตระเวนที่เยอะมาก ก็เข้าใจถึงปัญหาสถานการณ์ต่างๆ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมีความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เมียนมา ต้องจัดการปัญหายาเสพติดตั้งแต่ต้นทางก่อนที่จะเข้ามาที่จังหวัดเชียงใหม่ให้ได้ ต้องเข้าไปจัดการปัญหาเริ่มต้น ตั้งแต่สารตั้งต้นที่มาจากจีน มาเมียนมา แล้วเข้ามาสู่ประเทศไทย หากจัดการต้นทางของห่วงโซ่นี้ได้ก็จะได้ผล

เช่นเดียวกันเราให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องไฟป่า และหมอกควัน ซึ่งตนเองก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เหมือนกัน ต้องดูแลเรื่องของสุขภาพด้วยไม่ใช่ดูเรื่องการเผาอย่างเดียว โดยล่าสุดได้พูดคุยกับทางท่านรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะมีวิธีไหนที่จะเปลี่ยนเทคนิคให้กับเกษตรกรที่เน้นการเผามาปลูกพืช หรือเทคนิคอะไรที่ไม่ต้องให้เกิดการเผาเยอะเหมือนเมื่อก่อน ก็มีการพูดคุยกัน และในอนาคตก็อาจจะมีการพูดคุยกับหน่วยงานทางด้านการเกษตรเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเรื่องของคุณภาพอากาศ แต่ที่สหรัฐอเมริกา พื้นที่การเกษตรไม่เหมือนกับเมืองไทยตรงที่เป็นพื้นที่ราบส่วนใหญ่ ดังนั้น การเก็บเกี่ยวจึงไม่เน้นเรื่องการเผาให้ราบเรียบ หรือการเตรียมพื้นดินอย่างประเทศไทย แต่การปลูกข้าวโพดของสหรัฐฯ สามารถนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปดึงผลผลิตและเศษซากออกมาได้หมดในทีเดียวแต่ในประเทศไทยไม่สามารถนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปได้ เพราะพื้นที่ปลูกข้าวโพดอยู่บนพื้นที่สูง จึงไม่สามารถนำเอาเครื่องจักรมาใช้ได้ แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือในการส่งเสริมประเทศไทยในการแก้ไขปัญหานี้ ส่วนทางด้านการลงทุนการลงทุน ได้คุยกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอย่าง BOI กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอื่นๆ เพื่อขยายเรื่องของการลงทุน จะมีการประสานกับนักลงทุนว่าว่ามีความต้องการลงทุนหรือสนใจ ประเภทไหน อย่างเช่น บริษัทที่ผลิตมันฝรั่งชื่อดังว่าที่เขาเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพราะอะไร เพื่อที่จะได้นำแนวคิดดังกล่าวมาขยายการลงทุนอื่นๆ ในประเทศไทยต่อไป

ด้านปัญหาของสหรัฐอเมริกา กับจีน จะส่งผลกระทบในอาเซียนหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลของรัฐมนตรีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นรัฐบาลแรกที่มีมุมมองทัศนคติกับรัฐบาลจีนตามที่เป็นจริง ไม่ใช่ตามสิ่งที่เราอยากให้เป็น ในทะเลจีนใต้ ในอาเซียน ก็จะเหมือนกับแม่น้ำโขงของไทย ที่เป็นไปตามกระแสการไหลของน้ำ ไม่ได้ต้องการให้ประเทศไทยนั้นเลือกข้าง แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าการดำเนินการของรัฐบาลจีนที่ผ่านมามีลักษณะอย่างไร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวในที่สุด