จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์หนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายพนักงานขับฟู๊ดแพนด้า เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุขับรถเฉี่ยวชนกันบนท้องถนน แม้พนักงานคนดังกล่าวจะยกมือไหว้เพื่อขอโทษแล้วก็ตาม จนกระทั่งได้มีพลเมืองดีเข้ามาห้ามปราม ก่อนที่ชายเสื้อลายที่ก่อเหตุจะขับรถไป ซึ่งหลังคลิปเหตุการณ์นี้ปรากฎเผยแพร่ออกไปแล้วนั้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามทางด้าน นายนพเก้า ไผทพิเชษฐ อายุ 23 ปี พนักงานขับฟู๊ดแพนด้าที่ถูกทำร้ายร่างกาย ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียหายได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถส่งอาหารและกำลังจะไปรับออเดอร์ของลูกค้าที่แถวย่านสันติธรรม โดยได้ขับตรงมาทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ซึ่งมีทางแยกเข้าไปเจ็ดยอด โดยตนได้ขับมาตามเส้นทางและไปเจอกับคู่กรณีได้ขับรถออกมา แล้วมาบอกตนว่าได้ขับรถปาดหน้า
แล้วได้ขับรถมาจอดด้านหน้าตน ทำให้ตนเบรคไม่ทันรถไปเฉี่ยวชนท้ายคู่กรณี จากนั้นคู่กรณีก็ได้ลงจากรถแล้วตรงเข้ามาชกต่อยตนเข้าที่ศีรษะหลายสิบครั้ง ซึ่งขณะนั้นตนใส่หมวกกันน็อคอยู่ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่จะทีคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว โดยหลังจากนั้นตนก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษคู่กรณีแล้ว ทั้งๆ ที่ตนก็ไม่ได้เป็นคนผิด แต่ชายคู่กรณีก็ยังโวยวายและคงทำร้ายร่างกายตน อีกทั้งได้มีการกระชากหต้ากากหมวกกันน็อคจนพังเสียหาย โดยหลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาห้ามปราบ และชายคู่กรณีก็ขับรถไป ขณะที่หลังเกิดเหตุตนก็ทำอะไรไม่ถูกและยังสับสนว่าชายคนดังกล่าวก่อเหตุเพราะอะไร ในวันนี้จึงได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี
ขณะที่ทางด้าน วุฒิชัย ไผทพิเชษฐ อายุ 27 ปี พี่ชายของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้น้องชายรู้สึกตกใจ และรู้สึกตื่นตระหนกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งปกติน้องชายก็เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว และมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ทำให้ทำอะไรไม่ถูก นอกจากนี้หลังเกิดเหตุก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีแต่อย่างใด แม้ว่าทางเพื่อนคนรู้จักของตนได้พยายามติดต่อไปหาชายคนดังกล่าวแล้วก็ตาม ซึ่งตนก็อยากให้ทางคู่กรณีออกมาขอโทษและรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำลงไป และชดใช้ค่าเสียหายกับทรัพย์สินที่ถูกกระทำ และอยากฝากถึงคู่กรณีด้วยว่า เวลาทำอะไรให้คิดก่อน และควรจะมีสติ และขอให้ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามในส่วนของการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อรวบรวมหลักฐาน และกำลังเร่งดำเนินการติดตามตัวชายคู่กรณีที่ก่อเหตุมาสอบสวนเช่นกัน เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป