30 เมษายน 2567 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ช่วยราชการ ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตรำวจ สภ.ภูพิงค์ และสภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีเหตุผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ ย่านถนนคันคลองชลประทาน ถนนสุเทพอหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชุมชนวัดอุโมง ต่อเนื่อง ถนนในหมู่บ้านแกรนวิว รวม 5 เคส ผู้เสียหาย 5 คน โดย ลำดับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.67 เวลา 04.45 น. ปากซอยวัดอุโมงค์-ปากซอย 5 วัดป่าแดง (ถ.หลัง มช.) ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุโชว์อาวุธมีด ข่มขู่เอาเงิน ผู้เสียหายหลบหนี ไม่ได้เงิน เวลา 04.47 น. ถ.คันคลอง แนวรั้ว มช. ผู้ต้องหาโชว์อาวุธมีด ข่มขู่เอาเงิน ผู้เสียหายหลบหนี ไม่ได้เงิน เวลา 04.51 น. ปากซอยวัดอุโมงค์ (ถ.หลัง มช.) ผู้ต้องหาโชว์อาวุธมีด ข่มขู่เอาเงิน ผู้เสียหายหลบหนี ไม่ได้เงิน เวลา 04.56 น. ถนนในซอย ก่อนถึงวัดอุโมงค์ 50 ม. ผู้ต้องหาโชว์อาวุธมีด ข่มขู่เอาเงินได้เงินสด ประมาณ 50 บาท และ เวลา 05.17 น. ถ.ในหมู่บ้านแกรนด์วิว ผู้ ผู้ต้องหาโชว์อาวุธมีด ข่มขู่เอาเงิน แต่ไม่ได้เงินจากผู้เสียหาย
ผู้ต้องหาเป็น เยาาวชนชายอายุ 16 ปี ที่อยู่ตามบัตร ม.5 ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่ หอพัก ม.7 ต.สุเทพ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ และ เยาวชนชาย อายุ 15 ปีเศษ ที่อยู่ หมู่ 4 ต.ขัวมุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีแดง ทะเบียน 2กต – 2806 เชียงใหม่ ใช้อาวุธมีดยาว(ดาบซามูไร) จำนวน 2 เล่มในการข่มขู่ผู้เสียหาย หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามชิงทรัพย์เวลากลางคืน โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันชิงทรัพย์เวลากลางคืน โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย ว่า มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธมีดมาข่มขู่เพื่อขอเงิน โดยมีลำดับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.67 เวลาประมาณ 04.40 น. ขณะที่ผู้เสียหายคนที่ 1 กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ อยู่ที่บริเวณ ถ.สุเทพ (ด้านหลัง มช.) ต.สุเทพ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางประตูวิศวะ ได้มีผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ขับขี่รถจยย. เข้ามาหาในลักษณะประกบด้านข้าง พร้อมพูดบอกให้ผู้เสียหายส่งเงินสดมาให้จำนวน 100 บาท พร้อมแสดงอาวุธมีดให้ผู้เสียหายดู ผู้เสียหายเกิดความตกใจจึงได้เร่งความเร็วแล้วขับหลบหนีไป ส่วนผู้ต้องหาไม่ได้ติดตามไปแต่อย่างใด ต่อจากนั้นผู้ต้องหาได้กลับรถ แล้วขับรถไปหาผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งกำลังขับขี่รถจยย.ในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยมุ่งหน้าไปทางสี่แยกต้นพยอม พร้อมพูดจาและแสดงอาวุธมีดให้ผู้เสียหายดูเพื่อข่มขู่เอาเงินจากผู้เสียหายที่ 2 แต่ผู้เสียหายเกิดความตกใจจึงได้เร่งความเร็วแล้วขับหลบหนีไป ซึ่งผู้ต้องหาก็ไม่ได้ขับติดตามไปแต่อย่างใด ผู้ต้องหาจึงได้ขับรถกลับมายัง ถ.สุเทพ มุ่งหน้าไปทางประตูวิศวะอีกครั้ง และ เจอผู้เสียหายที่ 3 ขับรถ จยย.อยู่จึงเข้าประกบอีกครั้ง ผู้เสียหายเกิดความตกใจจึงได้เร่งความเร็วแล้วขับหลบหนีไป โดยหลบหนีไปทางประตูเชียงใหม่ ต่อจากนั้นผู้ต้องหาได้ขับขี่หลบหนีเข้าไปในย่านชุมชนวัดอุโมงค์ และ ไปเจอกับผู้เสียหายที่ 4 จึงเข้าประกบอีกครั้ง โดยครั้งนี้ผู้เสียหายได้มอบเงินเหรียญให้ผู้ต้องหาไป ประมาณ 50 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้ขับขี่ไปทิศทางย่านหมู่บ้านแกรนด์วิว และได้เข้าประกบกับผู้ต้องหาที่ 5 ซึ่งผู้เสียหายแจ้งว่าไม่มีเงิน ผู้ต้องหาจึงได้ขับขี่หลบหนีไป ซึ่งภายหลังผู้เสียหายทั้ง 5 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จากการสืบสวน ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด การข่าวจากกลุ่มแก๊งค์วัยรุ่นในพื้นที่ ข้อมูลจากสื่อออนไลน์ต่างๆ จนกระทั่งสามารถสืบทราบว่าผู้ต้องหา เป็นเยาวชน ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวตัวมาซักถามสอบปากคำที่ สภ.ภูพิงค์ฯ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การยอมรับว่า ได้เป็นคนที่ขับขี่รถจยย. ไปข่มขู่ขอเงินจากบุคคลทั่วไปตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุจริง โดยใช้อาวุธมีดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้จริง โดยรับว่าสารภาพที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฏหมาย